เตือนภัย! สำหรับสาวกปลาหมึก หรือผู้ที่ชื่นชอบการกินปลาหมึก โดยเฉพาะปลาหมึกย่าง ควรสังเกตลักษณะปลาหมึกให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อหรือก่อนจะกินเข้าไป หากพบว่าปลาหมึกมีลักษณะเป็นลายวงกลม สีน้ำเงิน และเรืองแสงได้ ให้หลีกเลี่ยงด่วน เพราะอาจเป็น ปลาหมึกบลูริง ซึ่งเป็นหมึกอันตรายมาก มีพิษร้ายแรงกว่างูเห่า 20 เท่า! หากกินเข้าไปอาจมีอาการแพ้พิษรุนแรงจนเสียชีวิตได้
หมึกบลูริง (Blue-ringed octopus) หรือ หมึกสายวงน้ำเงิน มีลักษณะแบบปลาหมึกสีฟ้า เป็นหมึกในสกุล Hapalochlaena คือ อันดับหมึกยักษ์ แต่หมึกบลูริงเป็นหมึกยักษ์ขนาดเล็ก มีจุดวงกลมคล้ายแหวนสีน้ำเงินหรือน้ำเงินอมม่วงเป็นจุดเด่น สามารถเรืองแสงได้ และปล่อยพิษได้ทั้งจากการกัด หรือต่อยเหยื่อ เพื่อฉีดพิษเข้าร่างกายของเหยื่อ หรือแม้แต่การไปสัมผัสโดนตัวหมึกบลูริงก็สามารถรับพิษได้เช่นกัน โดยสามารถพบหมึกบลูริงหรือหมึกสายวงน้ำเงิน สปีชีส์ Hapalochlaena maculosa ในประเทศไทยได้ทั้งฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทย
หมึกบลูริงถูกจัดให้เป็นสัตว์น้ำที่มีพิษร้ายแรงที่สุดชนิดหนึ่งของโลก โดยพิษของหมึกบลูริงร้ายแรงกว่างูเห่าถึง 20 เท่า และรุนแรงกว่าพิษงูทะเลหลายเท่า พิษของหมึกบลูริง เกิดจากแบคทีเรียสกุล Bacillus และ Pseudomonas ที่อาศัยอยู่ในต่อมน้ำลาย (Salivary gland) ของมัน รวมไปถึงในไข่ของหมึก ซึ่งสามารถพบพิษในหมึกบลูริงได้ตั้งแต่แรกเกิด โดยพิษหมึกบลูริงทนความร้อนได้ถึง 200 องศาเซลเซียส การนำไปปรุงสุกก็ไม่สามารถสลายพิษของมันได้ หากใครเผลอกินหรือถูกหมึกบลูริงกัด อาจมีอาการแพ้พิษรุนแรงจนตายภายในเวลาอันรวดเร็ว และปัจจุบันยังไม่มียาแก้พิษหรือเซรุ่มใด ๆ ต้านพิษได้ ดังนั้น ก่อนจะเลือกซื้อหรือบริโภคอาหารทะเล โดยเฉพาะปลาหมึกทุกชนิด ต้องสังเกตและระมัดระวังให้ดี หลีกเลี่ยงการสัมผัสด้วยมือเปล่า และไม่ควรนำหมึกบลูริงมาปรุงเป็นอาหารรับประทานเด็ดขาด
สารพิษของหมึกบลูริง เรียกว่า เตโตรโดท็อกซิน (Tetrodotoxin) ซึ่งเป็นพิษชนิดเดียวกับที่พบในปลาปักเป้า เมื่อได้รับพิษหมึกบลูริง อาจมีอาการต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- หายใจไม่ออก
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- กระบังลมเป็นอัมพาต ทำให้หายใจลำบาก
- อาจเสียชีวิตภายใน 2 – 5 นาที
วิธีปฐมพยาบาลเมื่อได้รับพิษหมึกบลูริง
เมื่อถูกพิษหมึกบลูริง ไม่ว่าจากการสัมผัส ถูกกัด หรือเผลอกินหมึกบลูริงเข้าไป จะร้องรีบทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยการนำอากาศเข้าสู่ปอด ด้วยวิธีการเป่าปาก และรีบนำตัวส่งให้ถึงมือแพทย์โดยเร็วที่สุด เพราะพิษของหมึกบลูริงออกฤทธิ์รวดเร็ว สามารถเสียชีวิตภายในไม่กี่นาที หากขาดอากาศนานเกินไปจนสมองตาย
วิธีรักษาผู้ป่วยที่ได้รับพิษหมึกบลูริง
ปัจจุบันยังไม่มียารักษา หรือยาต้านพิษหมึกบูริงได้ วิธีการรักษาผู้ป่วยที่ได้รับพิษในขณะนี้ ใช้การใส่เครื่องช่วยหายใจในห้อง ICU จนกว่าพิษจะสลายไปเอง หากได้รับการรักษาทัน หรือผู้ป่วยมีภูมิคุ้มกันร่างกายดี มีโอกาสรอดชีวิต แต่ก็มีผู้ที่ได้รับพิษหมึกบลูริงเสียชีวิต เนื่องจากได้รับการรักษาไม่ทัน หรือมีอาการแพ้รุนแรงจนเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากร่างกายขาดภูมิคุ้มกัน หรือมีโรคประจำตัวบางชนิดที่ร่างกายอ่อนแอ จนทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ จนทำให้ระบบหายใจล้มเหลวและเสียชีวิตในที่สุด ดังนั้น การป้องกันจากพิษหมึกบลูริงที่ดีที่สุด คือ การหลีกเลี่ยงการสัมผัส และการรับประทานหมึกบลูริงในทุกกรณี